แค่คิดไปเองหรือมันเกิดขึ้นจริง
แค่คิดไปเองหรือมันเกิดขึ้นจริง เด็กหนุ่มที่ดูจะไม่โดดเด่นและไม่เป็นที่สนใจในวันนี้เขาต้องเดินทางไปดูปูที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมทานพ่อดังนั้นพอรุ่นพี่ในที่ทำงานรู้ก็เลยอาสาขับรถไปส่งให้แล้วในระหว่างทางพวกเขาเกือบจะขับรถชนชายคนนึงที่มีดวงตาสีขาวน่ากลัวด้วยเมื่อมาถึงบ้านของปู่ใจก็พบว่าบ้านถูกรื้อค้นและปูก็หายตัวไปเขาจึงบอกให้รุ่นพี่รู้แล้วก็ลองเดินไปสำรวจรอบๆบ้านจะพบว่าหนูนอนหายใจรวยรินอยู่แถมดวงตาก็ยังถูกว่าเอาไปอีกด้วยโดยก่อนที่กูจะสิ้นใจปู่ก็ได้ยืนยันกับเขาว่ากูไม่ได้บ้าและไม่เคยโกหกเขาพร้อมก็บอกให้เขาไปที่ก่อและเข้าไปในวังวนของวันที่ 3 กันยายนปี 1943 แล้วนกจะอธิบายทุกอย่างเขาฟังเองซึ่งทันทีที่ปูเสีย
ชีวิตลงเขาคงไม่น่าขึ้นไปเห็นพี่ชายตู้ยาวกำลังเดินตามหลังรถที่เข้ามาทำให้เขาตกใจมากและรีบตะโกนบอกเธอดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับไปยิงมันแต่คบเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นเหรอครับก็กลับมาที่เจ๊เขาเข้ามารับการบำบัดได้หลายเดือนแล้วและในตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าที่เขาเห็นพี่ชายในตอนนั้นคงเป็นเพราะความเห็นการตายของปู่เนื่องจากปู่ชอบเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้เขาฟังสินค้าก็ได้ย้อนกลับไปให้เห็นว่าในตอนเด็กๆเขากระปุกสนิทกันมากแล้วกูก็ชอบเล่าเรื่องนึงให้เขาฟังด้วยบอกว่าเคยถูกส่งไปอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าบนเกาะนานก่อนที่จะไปเป็นทหารแต่งงานแล้วมีครอบครัวทีมงานเป็นที่วิเศษมากเพราะมีแต่เด็กประหลาดพร้อมคำบรรยายให้เขา
ฟังว่ามีใครและแต่ละคนทำอะไรได้บ้าง ที่สำคัญปีศาจที่พวกเด็กๆต้องคอยหลบหนีนั้นมันหน้าตาเป็นยังไงเขาก็เชื่อเรื่องที่กูเล่ามาตลอดจนกระทั่งเอาไปเล่าให้เพื่อนๆฟังแล้วก็ถูกหัวเราะเยาะกลับมาทำให้เขาเสียใจมากเลยเลิกเชื่อเรื่องราวเหล่านั้นไปครับเวลาต่อมาแม่ได้จัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับเขาทำให้เขาได้พบกับป้าแล้วป้าก็ได้นำของขวัญวันเกิดที่ปู่เจียมเอาไว้มามอบให้กับเขาด้วยทำให้เขาได้พบกับภาพถ่ายของเกาะที่พูดให้ฟังเสียงเอาไว้ก่อนตายจากการผ่าตัดวันที่ 7 ได้พาพ่อกับแม่ไปพบหมอแล้วก็ขออนุญาตไปที่เกาะซึงหงอคงเห็นด้วยเพราะเป็นการบำบัดวิธีหนึ่งขณะที่เจ๊กำลังนั่งเรือไปกับพ่อเมื่อเจ๊เห็นว่าพ่อพูดถึงเรื่องนกเขาก็เลยแซวไป
เล่นว่านี่อาจจะเป็นผู้ใหญ่เพศที่ของปู่ที่แปลงร่างเป็นนกก็ได้ แล้วพอมาถึงกองพอก็จะออกไปเที่ยวถ่ายรูปนกที่ชายหาดทำไมเขาไม่พอใจมากเลยบอกว่างั้นแยกกันดีกว่าเพราะเขาจะไปที่บ้านเด็กกำพร้าแต่พ่อก็กลัวจะโดนแม่ด่าพี่ปล่อยให้เขาไปคนเดียวดายจังให้เลยได้ก็ช่วยพาเขาไปแทนด่าเด็กวัยรุ่น 2 คนพวกนั้นได้แกล้งแนะนำให้เช็คไปทางร้านจนทำให้รองเท้าของเขาจมโคลนหายไปแต่ในที่สุดเขาก็ได้พบกับบ้านเด็กกำพร้าจนได้แต่มันก็ไม่มีใครอยู่แล้วเหลือแต่ซากเท่านานกลับมาถึงโรงแรมเมอร์เคียวได้พูดคุยกับชายที่ใส่แว่นดำก็ทำให้เขารู้ว่าบ้านเด็กกำพร้าได้ถูกทหารเยอรมันทิ้งระเบิดทำลายไปตั้งแต่ปี 1943 ในวันที่ 3 กันยายนส่วนคนที่อยู่ใน
นั้นก็ตายกันไปหมดแล้วทำไมเขาเศร้ามากแต่พอวันถัดมาเขาก็ยังคงไปที่นั่นแถมยังได้พบกับเด็กๆที่เขาคิดว่าตายไปหมดแล้วอีกต่างหากทำให้เขาตกใจมากและถอยหลังไปสะดุดก้อนหินล้มสดๆไปจากนั้นพ่อเขาฟื้นขึ้นมาเขาก็เพราะว่าเด็กๆพวกนั้นได้แวะเข้ามาที่ปากถ้ำ 1 โดยพวกเธอได้บอกกับเขาว่าครูใหญ่เห็นเขานั่งเรือมาวันก่อนก็เลยบอกให้พวกเธอออกมารับเขาเข้าไปในวังวนทันทีที่เขาก็ไปเขาก็รู้สึกถึงสัมผัสที่แปลกประหลาดเขากลัวมากจึงรีบวิ่งหนีก็ที่โรงแรมเขาว่ามันกลับกลายเป็นบาร์แถมทุกคนยังคิดว่าเขาเป็นสายลับและจะเข้ามาทำร้ายเขาอีกต่างหาก ทำให้เขาตกใจมากแต่แล้วจู่ๆพวกเด็กๆก็เข้ามาช่วยเขาเอาไว้ได้ทันเวลาพร้อมกับอธิบาย
ว่าเขาได้เข้ามาในวังวนของวันที่ 3 กันยายนแล้วเมื่อเดินทางมาถึงบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าเสร็จก็ได้พบกับกูใหญ่ซึ่งเธอก็ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีแถมยังชมอีกว่าเขาโตขึ้นมากเพราะสุดท้ายที่กูส่งมาให้เธอดูตอนนั้นเขายังตอบแตะอยู่เลยแถมกูอยากรู้อีกว่าปู่ของเขาได้เสียชีวิตไปแล้วในขณะที่ครูบาเจ๊กเดินชมบ้านครูก็ได้อธิบายให้เขาฟังว่าเด็กจะอยู่ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นคนประหลาดเนื่องจากแต่ละคนมีความสามารถพิเศษไม่เหมือนกับคนทั่วไปซึ่งความสามารถพิเศษนี้มันจะถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นและที่สำคัญที่ทุกคนยังดูเด็กเหมือนเดิมไม่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะเธอเองเธอคือคนชราที่ถูกเรียกว่าอิ่มบรีนแต่สามารถแปลงร่างเป็นนกแล้วก็มีพลังควบคุมเวลาหรือ
จะเรียกว่าวังวนก็ได้โดยใช้สถานที่และวันเวลาที่ปลอดภัยแล้วก็ให้เด็กๆได้ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงล่าสุดนานแล้ววนอีกโดย impul มีอยู่ทั่วโลกและก็อุทิศตัวเพื่อปกป้องเด็กๆเหล่านี้ครับแต่ที่ครูใหญ่พาตัวเธอก็ได้แนะนำเด็กๆและความสามารถของแต่ละคนให้เขาได้รู้และพอเธอได้ยินว่ามีตำรวจมาขอพบเรื่องที่เด็กๆปวดที่ผ่านมาเธอก็ขอตัวออกไปจัดการดังนั้นจึงได้อยู่กับอาม่าตามลำพังและก็ได้ช่วยเธอนะเพราะน้องก็ไปคืนรังบนต้นไม้ด้วยโดยที่เธอไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้ตามลำพังซึ่งก็เป็นเพราะถ้าไม่มีคนคอยดึงเชือกเขียวจะเอาไว้เธอก็จะหลุดและลอยไปเรื่อยๆนั่นเองแถมเธอยังดูเหมือนจะเป็นเอดส์และเคยรักอยู่กับลูกเขาด้วย แต่เธอก็เหมือน
จะยังคงโกรธและน้อยใจปู่อยู่ที่ปู่ตัดสินใจจากที่นี่ไปซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกูถึงตัดสินใจแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไรขณะที่ทุกคนออกมานั่งทานอาหารเหมือนเด็กๆพากันถามเช็คว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ตลอดไปไม้อีกทีดูเหมือนจะแอบชอบเองมากอยู่จึงพูดเรื่องปลุกขึ้นมาทันทีว่าเจ๊ก็คงเหมือนกับกูนั่นแหละจะมาอยู่ที่นี่ทำไมทำให้เอ็มมาไม่พอใจและเดินออกจากโต๊ะอาหารไปครับด่านครูขณะที่เธอกำลังดูเด็กๆที่พูดจาไม่ดีใส่การจู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นไปรับสายแล้วก็พบว่าเป็นปู่นั้นเองที่โทรมาหลังจากทานอาหารเสร็จทุกคนก็ออกมาดูทีวีซึ่งก็คือภาพถ่ายจากเด็กคนนึงในกลุ่มที่ดูเหมือนว่าจะรู้อนาคตโดยพวกเขาพบว่ามีหญิงชราคน
หนึ่งเข้ามาอยู่ในกลุ่มของพวกเขาและเจกับเมย์มาก็ทำท่าทางเหมือนกับกำลังจะจูบกันจังหวะนั้นเองพวกเขาก็ถูกขัดจังหวะพิธีพร้อมกับถามว่าใครจะออกไปดูสร้างวนบ้างเพราะได้เวลาแล้วทำให้ทุกคนต่างก็ดีใจและพากันออกไปที่ด้านนอกรวมกระทั่งถึงเจ๊ด้วย